พระธรรมเทศนาโดย หลวงปู่เจ้าคุณพระธรรมฐิติญาณ(หลวงปู่ศรีจันทร์ ปุญญรโต) วัดบึงพระลานชัย

[ตามรอยพุทธ]

[HS4 VQN]

สาธุคับ

ขอเพิ่มเติมข้อมูลคับ

หากจะกล่าวถึงพระนักเทศน์ชื่อดังแห่งภาคอีสาน เพชรน้ำเอกด้านการศึกษาสงฆ์แห่งจังหวัดร้อยเอ็ด คงไม่มีใครที่ไม่เคยได้ยินชื่อ "ท่านเจ้าคุณวัดบึงพระลานชัย" หรือ "พระธรรมฐิติญาณ"

ผู้ที่สามารถเทศนาถ่ายทอดหลักธรรมสู่ญาติโยมอย่างเป็นรูปธรรม สามารถนำไปใช้ในการดำเนินชีวิตได้อย่างมีคุณค่า จนมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศไทยและต่างประเทศ

ปัจจุบัน พระธรรมฐิติญาณ (ศรีจันทร์ ปุญฺญรโต) สิริอายุ 76 พรรษา 56 ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะภาค 10 (ธรรมยุต) และเจ้าอาวาสวัดบึงพระลานชัย ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด



อัตโนประวัติ

พระธรรมฐิติญาณ มีนามเดิมว่า ศรีจันทร์ ลาวะลี เกิดเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2480 ณ บ้านเลขที่ 25 หมู่ 5 บ้านหนองหน่อง ต.อีง่อง อ.จตุรพักตร์พิมาน จ.ร้อยเอ็ด โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายสุวรรณและนางไกร ลาวะลี

วัยเด็กเป็นผู้ที่มีจิตใจอ่อนโยนและฝักใฝ่ในหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนามาตั้งแต่วัยเยาว์ ด้วยมักจะติดตามโยมมารดาไปทำบุญที่วัดเป็นประจำ

เมื่ออายุครบ 15 ปี เข้าพิธีบรรพชา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 มีนาคม 2495 ณ วัดสว่างอารมณ์ ต.อีง่อง

โดยมีเจ้าอธิการอำ (พระครูจันทรังษีสุกิจ) วัดสระทอง เป็นพระอุปัชฌาย์

ตั้งหน้าตั้งตามุ่งศึกษาหาความรู้ในพระปริยัติอย่างจริงจัง จนสามารถสอบไล่ได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ตามลำดับ และ พ.ศ.2499 สำเร็จวุฒิบัตรภาษาอังกฤษจากโรงเรียนเมืองร้อยเอ็ด พ.ศ.2500 สำเร็จวุฒิบัตรวาทศิลป์ โรงเรียนเดียวกัน

เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ จึงเข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2500 ณ วัดบึงพระลานชัย ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด โดยมีพระครูคุณสารพินิจ (แก้ว อุปติสฺโส) วัดบึงพระลานชัย เป็นพระอุปัชฌาย์, พระปลัดผาด อุตฺตโม (พระครูวิจิตรคุณาธาร) วัดบึงพระลานชัย เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระมหาชารี อาภารโณ วัดบึงพระลานชัย เป็นพระอนุสาวนาจารย์

เมื่อครองผ้ากาสาวพัสตร์ ได้สำเร็จการศึกษาในด้านต่างๆ อาทิ พ.ศ.2501 สำเร็จวุฒิบัตรสารบรรณ โรงเรียนอำเภอเมืองร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด พ.ศ.2505 สำเร็จวุฒิบัตร โรงเรียนพระสังฆาธิการ คณะธรรมยุตชั้นเจ้าคณะอำเภอ พ.ศ.2509 สำเร็จครูพิเศษ สภาการศึกษามหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย นอกจากนี้ ยังสำเร็จการศึกษาพิเศษหลากหลายด้าน เช่น ภาษาต่างประเทศ หลักการบริหาร วาทศิลป์ และมนุษยสัมพันธ์ เป็นต้น

ท่านยังมีความชำนาญการพิเศษมากมาย ทั้งในด้านปกครอง การศึกษา การเผยแผ่พระพุทธศาสนา, สาธารณูปการ, ธรรมกถึก, การก่อสร้าง ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากคณะสงฆ์ให้ดำรงตำแหน่งงาน ดังนี้
1.เจ้าคณะภาค 10 (ธรรมยุต)
 2.เจ้าอาวาสวัดบึงพระลานชัย พระอารามหลวง
3.เจ้าสำนักเรียนธรรม-บาลี ตัวอย่างกรมการศาสนา
4.เจ้าสำนักเรียนธรรม-บาลี ดีเด่นกรมการศาสนา
5.เจ้าสำนักเรียนธรรม-บาลี ระดับ จ.ร้อยเอ็ด
6.ประธานกรรมการบริหารศูนย์ฝึกอบรมพระธรรมกถึก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ศ.ธ.ภ.)
7.กรรมการคณะธรรมยุตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
8.กรรมการเถรสมาคมธรรมยุต
9.ผู้อำนวยการศูนย์อบรมจังหวัดร้อยเอ็ด
10.วิทยาการประจำเขตการศึกษา 10
11.ผู้จัดการโรงเรียนเทพบัณฑิตวิทยาลัย (พระปริยัติธรรม แผนกสามัญฯ)
12.ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์วัดบึงพระลานชัย
13.อาจารย์พิเศษประจำมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตร้อยเอ็ด
14.อาจารย์พิเศษมหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

เกียรติประวัติที่ได้รับการยกย่อง

พ.ศ.2510 ได้รับเกียรติบัตรจากนายกยุวพุทธิกสมาคมร้อยเอ็ด ในด้านเผยแผ่ธรรมดีเด่น จ.ร้อยเอ็ด
พ.ศ.2527 ได้รับพัดพัฒนาจากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต

ในด้านการพัฒนาวัด

พ.ศ.2533 ได้รับพระราชทานเสมาทองคำจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
การเผยแผ่ธรรมะในประเทศ ได้รับเกียรติบัตรจากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
ในด้านการส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศ

พ.ศ.2534 ได้รับเกียรติบัตรจากสมเด็จพระญาณสังวรฯ เจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต ในด้านการเผยแผ่ธรรมดีมาก
ได้รับเกียรติบัตรจากสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดร้อยเอ็ด ในด้านช่วยเหลือการศึกษา ได้รับคัดเลือกประกาศเกียรติคุณบัตร เป็นผู้ให้การสนับสนุนช่วยเหลือการศึกษาดีเด่นจังหวัดร้อยเอ็ด จากสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดร้อยเอ็ด จัดการศึกษาแผนกบาลี ผลการสอบ ได้อันดับที่ 1 ของ จ.ร้อยเอ็ด (ธรรมยุต-มหานิกาย) จัดการศึกษาแผนกบาลี ผลการสอบ ได้อันดับที่ 1 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ธรรมยุต) และอันดับที่ 3 ของประเทศ

พ.ศ.2537 คุรุสภาจังหวัดมหาสารคาม ถวายประกาศเกียรติคุณบัตรเชิดชูเกียรติคุณ ครูดีของสังคม พ.ศ.2538 ได้รับเกียรติบัตร ปฏิบัติศาสนกิจดีมากในด้านการศึกษา จากสมเด็จพระญาณสังวรฯ เจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต และได้รับปริญญาครุศาสตรบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาการบริหารการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์

ระหว่างปีพ.ศ.2539-2544 ได้รับเกียรติบัตรปฏิบัติศาสนกิจดีมาก ในด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนาและการศึกษาจากสมเด็จพระญาณสังวรฯ เจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต


พ.ศ.2545 ได้รับเกียรติบัตร สนับสนุนส่งเสริมวัฒนธรรมวันอนุรักษ์มรดกไทย จากจังหวัดร้อยเอ็ด พ.ศ.2545 ได้รับปริญญาศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาพุทธศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

ลำดับสมณศักดิ์

พ.ศ.2511 ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรในราชทินนาม พระครูสิริธรรมโสภิต
พ.ศ.2516 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร จจ.ชพ. ในราชทินนามเดิม
พ.ศ.2526 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่ พระศีลวิสุทธาจารย์
พ.ศ.2533 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระราชาคณะชั้นราช ในราชทินนามที่ พระราชสารสุธี
พ.ศ.2538 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระราชาคณะชั้นเทพที่พระเทพบัณฑิต
พ.ศ.2546 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระราชาคณะชั้นธรรม ในราชทินนาม ที่ พระธรรมฐิติญาณ

สำหรับคติธรรมที่พระธรรมฐิติญาณ มักใช้สอนญาติโยมเป็นประจำ คือ "อยู่อย่างมีปัญญา ยอมอย่างมีเหตุผล อยู่อย่างมีศักดิ์ศรี ใหญ่อย่างมีประโยชน์ อย่าหยิ่ง ยิ้มแย้ม เยือกเย็น ยืดหยุ่น เยี่ยมเยียน หยิบยื่น ยกย่อง ใครทำได้ย่อมยอดเยี่ยมและยิ่งใหญ่"


แม้ทุกวันนี้ พระธรรมฐิติญาณ จะอายุย่างเข้าสู่วัยชราก็ตาม แต่ท่านยังเอาใจใส่ทำงานเพื่อส่วนรวมเช่นเดิม

[kaentong]

ขอขอบคุณท่าน HS4VQN ที่มาให้ข้อมูลเพิ่มเติม

[ตามรอยพุทธ]

อนุโมทนา สาธุ

[ตามรอยพุทธ]

[ตามรอยพุทธ]

[ตามรอยพุทธ]

[ตามรอยพุทธ]

[ตามรอยพุทธ]

[ตามรอยพุทธ]

[ตามรอยพุทธ]

[ตามรอยพุทธ]

[ตามรอยพุทธ]

[ตามรอยพุทธ]

[ตามรอยพุทธ]