แอนดรอยด์จะเป็นเจ้ายุทธจักร - โลกาภิวัตน์

[kaentong]

แอนดรอยด์จะเป็นเจ้ายุทธจักร - โลกาภิวัตน์

ที่มา : http://www.dailynews.co.th/technology/185773

คำพยากรณ์ข้างต้นจากสำนักวิจัยไอดีซี ซึ่งได้เปิดเผยรายงานการจำหน่ายแท็บเล็ต และก็ดูเหมือนว่าแท็บเล็ตของแอนดรอยด์จะแซงหน้าไอแพดค่อนข้างแน่นอน

ระบบเปิดอย่างแอนดรอยด์น่าจะล้มยักษ์ใหญ่ของโลกอย่างแอปเปิ้ลได้ค่อนข้างแน่นอน ซึ่งทำให้ซีอีโอแอปเปิ้ลอย่างทิมคุกหลังการเสียชีวิตของสตีฟ จ็อบส์ ก็ยังคงจะต้องต่อสู้ดิ้นรนด้วยตัวเองไม่น้อย

จากรายงานของไอดีซี ซึ่งได้ประมาณการตลาดแท็บเล็ตทั่วโลกในควอเตอร์ที่ 4 ของปีที่แล้วเสร็จสิ้น ซึ่งก็แน่นอนตลาดแท็บเล็ตนี้โตเร็วมากและแอนดรอยด์แบ่งตลาดไปได้ส่วนใหญ่ ซึ่งขณะนี้ตลาดของแอปเปิ้ลซึ่งมีไอแพดทั้งแบบเรตินาและมินิ ซึ่งเคยครองแชมป์ในตลาดเกือบจะผูกขาดตกลงมาต่ำกว่า 50% ของตลาดทั้งหมดไปเรียบร้อยแล้วครั้งแรก

[kaentong]

รายงานกล่าวว่าในควอเตอร์ที่ 4 แอป เปิ้ลขายได้ 43.6% ของตลาดทั่วโลก แม้ว่าจะถือว่าเป็นผู้ค้าที่ใหญ่ที่สุดอยู่ แต่ถ้าเข้ามามองดูตลาดร่วมแบบระบบเปิดอย่างแอนด์ดรอย์ซึ่งมาจากการขายของอะเมซอน เอซัส และซัมซุงจะสูงกว่า 50% ของตลาดโลก

ไมโครซอฟท์สามารถจำหน่ายแท็บเล็ตแบบเซอร์เฟสได้ 900,000 เครื่องในควอเตอร์สุดท้ายหรือควอเตอร์ที่ 4 ของปีที่แล้วและได้สัดส่วนการตลาดไป 1.7% ส่วนคินเดิ้ลของอะเมซอนสามารถจำหน่ายได้ 6 ล้านเครื่อง ซึ่งเป็นสัดส่วนของการตลาด 11.5%

ถ้าหากจะดูย้อนไปในปี 2011 แอปเปิ้ลมีส่วนแบ่งตลาดแท็บเล็ตถึง 90% ในโลก ทั้งนี้เพราะว่าในปีนั้นกูเกิลยังไม่มีแท็บเล็ตของแอนดรอยด์ออกมาจำหน่ายในท้องตลาดและมาเริ่มก็ปลายปี 2011 ซึ่งก็ทำให้แอปเปิ้ลกลายเป็นเบอร์หนึ่งแบบไร้เทียมทานในปีนั้น

ปัจจุบันต้องยอมรับว่าไอแพดยังคงเป็นแท็บเล็ตของแอปเปิ้ลที่ขายดีที่สุด และยังทรงอิทธิพลมากที่สุดต่อตลาดแท็บเล็ต เพราะเป็นระบบปิด (Closed System) คือมีเจ้าของเดียวที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Proprietary ส่วนการมีเจ้าภาพร่วมโดยมีกูเกิลเป็นเจ้าภาพใหญ่ของระบบแอนดรอยด์ ซึ่งให้เจ้าภาพนำแอนดรอยด์ไปดัดแปลงจำหน่ายได้เอง เรียกว่าระบบเปิดหรือ Open System เทคโนโลยีระบบเปิดประเภทกินแบ่งแต่ไม่กินรวบ ทำให้ระบบปิดแบบกินรวบของเทคโนโลยีดั้งเดิมของเครื่องคอมพิวเตอร์ไอบีเอ็มสมัยก่อนที่เรารู้จักกันกระอักเลือดและสูญหายไปเรียบร้อย

ที่ว่าแอนดรอยด์อนาคตจะเป็นเจ้ายุทธจักรเพราะหลายเจ้าแข่งกันขาย เลยทำให้ราคาถูกกว่าแอปเปิ้ลซึ่งเคยเป็นผู้กำหนดราคาแค่เพียงเจ้าเดียวและจากการศึกษาวัฏจักรผลิตภัณฑ์ของตลาดมือถืออัจฉริยะมา 5 ปี แอปเปิ้ลก็จะต้องเรียนรู้ว่า จะต้องยอมเสียส่วนแบ่งการตลาดของมือถืออัจฉริยะแน่นอน

ท่านผู้อ่านพิจารณาดูแล้ว มีความคิดเห็นอย่างไรบ้างก็ช่วยบอกกันบ้าง.

รศ.ดร.บุญมาก  ศิริเนาวกุล
อธิการบดี มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด
boonmark@stamford.edu