กสท. หารือ ผู้ประกอบการกำหนดช่องประมูลดิจิตอล

[kaentong]

กสท. หารือ ผู้ประกอบการกำหนดช่องประมูลดิจิตอล

ที่มา : http://www.dailynews.co.th/technology/182780

กสท. หารือกำหนดเพดานช่องรายการประมูลทีวีดิจิตอล กับผู้ประกอบการ เผยเร่งหาข้อสรุปภายในเดือนก.พ.56 ด้านอนุกรรมการ ชี้ควรกำหนด 2 ช่องต่อ 1 ราย เพื่อสร้างตลาดใหม่

[kaentong]

วันนี้(5ก.พ.) ที่ตึกเอ็กซิม แบงก์ ชั้น 24  คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โดยคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) คณะอนุกรรมการจัดทำแผนการปรับเปลี่ยนระบบการรับส่งวิทยุกระจายเสียงวิทยุโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล ที่มี พ.อ.ดร.นที ศุกลรัตน์  รองประธานกสทช.และประธานกสท.  เป็นประธานคณะอนุฯ ได้มีการเชิญผู้ประกอบการและดร.ประภา เหตระกูล  ศรีนวลนัด บรรณาธิการหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ได้เข้าร่วมหารือข้อกำหนดเพดานจำนวนช่องรายการสำหรับการใช้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอลประเภทบริการธุรกิจด้วย

พ.อ.ดร.นที ศุกลรัตน์ รองประธานกสทช.และประธานกสท. เปิดเผยว่า สำหรับการหารือในครั้งนี้ได้รับฟังความคิดเห็นจากผู้ประกอบการ โดยคาดว่าจะได้บทสรุปการกำหนดเพดานช่องเพื่อประมูลทีวีดิจิตอลตามกรอบเวลาประมาณเดือนก.พ.56  เบื้องต้นคาดว่าอาจจะมีการเชิญผู้ประกอบการมาหารือเรื่องดังกล่าวอีกครั้งเพื่อหาความชัดเจน เนื่องจากอนุกรรมการต้องการฟังความคิดเห็นหลากหลายประเด็นมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตามสำหรับกรอบระยะเวลาการประมูลทีวีดิจิตอลประเภทบริการธุรกิจ 24 ช่องแบ่งเป็นช่องคุณภาพทั่วไป (เอสดี) 20 ช่อง และช่องคุณภาพสูง (เอชดี) 4 ช่อง โดยคาดว่าจะแยกการประมูลเป็น เด็ก/เยาวชน 5 ช่อง ข่าวสาร 5 ช่อง และวาไรตี้ทั่วไป (เอสดี 10 ช่อง ) และวาไรตี้คุณภาพสูง (เอชดี ) 4 ช่อง เบื้องต้นสามารถประมูลได้เดือน ก.ค. – ส.ค. 56  และคาดว่าจะมีผู้ประกอบการที่มีศักยภาพการแข่งขัน กว่า 25 ราย

ผศ.ธวัชชัย จิตรภาษนันท์   กสทช.และกสท.ด้านเศรษฐศาสตร์ เปิดเผยว่า  สำหรับการประชุมคณะอนุกรรมการจัดทำแผนการปรับเปลี่ยนระบบการรับส่งวิทยุกระจายเสียงและโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า  ควรมีการกำหนดเพดานช่องสำหรับผู้เข้าร่วมประมูลช่องรายการทีวีดิจิตอลสูงสุด 2 ช่องเพื่อเปิดให้ผู้ประกอบรายใหม่สามารถเข้าสู่ตลาดได้อีก 5 ราย รวมเป็น 19 รายใหญ่และรายย่อยรวมกัน  แต่ในขณะเดียวกันหากกำหนดให้ผู้เข้าร่วมประมูลสามารถประมูลสูงสุดได้ 3 ช่องรายการ จะทำให้มีผู้ประกอบการเพียง 14 ราย  คือ รายใหญ่ 5 ราย และรายย่อย  9 ราย ดังนั้น จึงเลือกที่จะสร้างใหม่เข้าสู่ตลาดอีก 5 ราย เพื่อความหลากหลายของเนื้อหา  และทำให้เกิดการแข่งขันมากขึ้น นอกจากนี้มีเงื่อนไขว่า ผู้เข้าร่วมประมูลไม่สามารถประมูลช่องข่าวร่วมกับช่องทั่วไปได้  แต่สามารถประมูลช่องข่าวร่วมกับช่องเด็ก  และช่องเด็กร่วมกับช่องทั่วไป เนื่องจากช่องเด็กไม่สามารถสร้างรายได้เท่ากับช่องรายการทั่วไปที่มีสัดส่วนสูงถึง 60 %.