สืบบช.น. แถลงจับ “ไอ้โอม” จิ้งจอกสังคมหลอกเหยื่อลักทรัพย์-ข่มขืนกว่า 100 ราย !

[E20ZSY- สระบุรี]

สืบบช.น. แถลงจับ “ไอ้โอม” จิ้งจอกสังคมหลอกเหยื่อลักทรัพย์-ข่มขืนกว่า 100 ราย !


วันที่ 20 ส.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.ต.พิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ รองผบช.น. พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบก.สส. แถลงข่าว พ.ต.อ.มานพ น่วมลิวงศ์ ผกก.สส.3 บก.สส. พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเคื่องมือพิเศษ บก.สส. จับกุม นายชาคร หรือโอม บุญเชิญ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 119 ต.เมืองลีง อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ พร้อมของกลางทรัพย์สินมีค่ากว่า 100 รายการ อาทิ โทรศัพท์มือถือ 20 เครื่อง กระเป๋าสะพาย 7 ใบ กระเป๋าสตางค์ 33 ใบ เงินสด บัตรประชาชนผู้เสียหาย 33 ใบ สมุดบัญชีธนาคาร 4 เล่ม บัตรเอทีเอ็ม และบัตรเครดิตธนาคารต่างๆ 65 ใบ จับกุมผู้ต้องหาได้ที่หน้าทางเข้าอพาร์ตเมนต์บ้านพิพัฒน์ เลขที่ 16 ซอยลาดพร้าว 15 แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม.

 พล.ต.ต.พิสิฏฐ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบทรัพย์สิน และของกลางที่ชุดสืบสวนยึดมาได้ จาการตรวจค้นห้องพัก 705อพาร์ตเม้นต์บ้านพิพัฒน์ นายชาคร ก่อเหตุมาแล้ว 100 กว่าราย จากการตรวจสอบมีบัตรประชาชน บัตรของธนาคาร และเอกสาร เช่น ใบขับขี่ บัตรข้าราชการ ซึ่งสามารถระบุยืนยันชื่อผู้เสียหายที่ถูกลักทรัพย์ได้ จำนวน 66 คน คดีดังกล่าวได้รับแจ้งจาก น.ส.นันท์ เป็นผู้เปิดเฟซบุ๊กใช้ชื่อว่า “ตามล่าไอ้โอม” www.facebook.com/omehuntter และ ome_hunt@hotmail.com เนื่องจากมีผู้เสียหายได้รับความเดือนร้อนถูกนายโอม ก่อเหตุลักทรัพย์ไปหลายคดี ชุดสืบสวนนครบาลจึงตรวจสอบพบว่า นายชาคร มีหมายจับ 5 คดี ทั้งคดีลักทรัพย์ คดีข่มขืน มีหลายคดีที่ขาดอายุความ และอีกหลายคดีก็อยู่ระหว่างแจ้งความ

 พล.ต.ต.พิสิฏฐ์ กล่าวด้วยว่า ตนสั่งการฝ่ายสืบสวนสน.บางนา และกก.สส.บก.น.5 และบก.สส. ติดตามจับกุมแต่นายโอมมีฝีมือหลีกเลี่ยงหลบหนีตำรวจได้อย่างดี จึงรอดไปทุกครั้ง ต้องใช้เวลาสืบสวนจับกุมนานกว่าเดือนครึ่งก็ยังไม่สามารถจับกุมได้ กระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ส.ค. นายโอมโทรศัพท์ไปหลอกนายสุเมธ วิวัฒน์วิชา อายุ 48 ปี ช่างภาพนิตยสารแพรว ซึ่งถูกทุบกระจกรถยนต์เหตุเกิดในซอยบางขุนนนท์ 29 ท้องที่สน.บางขุนนนท์ เมื่อวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยคนร้ายลักทรัพย์กล้องถ่ายรูป โน้ตบุ๊ก และเงินสด โดยมีไฟล์ที่ภาพถ่าย “ณเดชน์ คูกิมิยะ” กับ “ญาญ่า อุรัสยา” ที่จะใช้ลงนิตยสารถูกขโมยไปด้วย โดยนายสุเมธเคยให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า อยากได้ไฟล์ภาพดังกล่าวคืน นายโอม จึงได้โทรศัพท์ไปที่บ้านนายสุเมธ บอกว่าคนร้ายนำทรัพย์สินดังกล่าวมาจำนำไว้ 60,000 บาท พ.ต.อ.นพศิลป์จึงวางแผนหลอกล่อนายโอม กระทั่งจับกุมตัวได้ในที่สุด
 

 ด้านน.ส.รตินันท์ หรือนันท์ เหล่าอารักษ์พิบูล อายุ 29 ปี เจ้าของเว็บไซต์ “ตามล่าไอ้โอม” ที่มีสมาชิกว่า 2,700 กว่าคน กล่าวถึงเหตุผลการตั้งเว็บไซต์ล่านายโอม ว่า นายโอมเคยมาโพสต์ในเว็บไซต์พันทิพว่าเขาอยากฆ่าตัวตาย ก็เลยเข้าไปพูดคุยบอกว่า “เรายังตกงานอยู่เลย แล้วคุณจะฆ่าตัวตายทำไม” ต่อมานายโอม ก็โทรศัพท์มาชวนไปทำบุญตอนเช้า ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดอยู่ในเว็บไซต์ “ตามล่าไอ้โอม” ตอนเจอกันเขามีกลยุทธ์ คือใช้วิธีให้เอาทรัพย์สินมีค่าทั้งหมดใส่ไว้ในกระเป๋า จากนั้นนายโอมก็ขอเอากระเป๋าไปถือ หลังจากนั้นก็อาศัยทีเผลอขโมยไป ตนตั้งเฟซบุ๊กเพราะว่าไม่รู้ชื่อและนามสกุลคนร้าย และไม่รู้ว่าจะตามตัวได้อย่างไร อีกทั้งไม่อยากเกิดเหตุซ้ำกับคนอื่น แต่หลังจากเปิดเฟซบุ๊ก เขาก็ยังก่อเหตุมาเรื่อยๆ

 เจ้าของเว็บจับจิ้งจอกสังคมกล่าวว่า ตนเริ่มจากเปิดกระทู้ในเว็บไซต์พันทิพเล่าเรื่องที่เกิดขึ้น ต่อมามีผู้เสียหาย 2 คนเข้ามาบอกว่าเคยถูกชายรูปร่างอ้วน เตี้ย ก่อเหตุลักทรัพย์ทำนองเดียวกัน ผู้เสียหายได้ส่งรูปมาให้รวม 3 ภาพ โดยไม่ทราบชื่อและนามสกุลคนร้าย นอกจากนี้ยังเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดซึ่งไม่ค่อยชัดเจน จึงไม่สามารถออกหมายจับคนร้ายได้ มิหนำซ้ำมีกระแสตอบกลับมาว่าที่ตนนำลงเว็บไซต์เพราะต้องการให้คนบริจาคเงิน ซึ่งไม่เป็นความจริง ต่อมามีการนำออกไปเผยแพร่สื่อมวลชนและรายการโทรทัศน์ จนมีคนกดไลก์จำนวนมาก และมีแชร์กันจากเจ้าทุกข์จนทำให้ได้ชื่อจริง นามสกุลจริง เนื่องจากคนร้ายพลาด เคยนำบัตรประชาชนไปใช้ซื้อคีย์การ์ดคอนโดฯ แห่งหนึ่งเพื่อเข้าไปลักทรัพย์ในห้องพัก จากนั้นประสานกับตำรวจ พล.ต.ต.พิสิฏฐ์เข้าไปอัพเดทในเฟซบุ๊กคอยแจ้งความคืบหน้าและประสานงานกระทั่งสามารถจับกุมนายโอมได้

 “นายโอมเป็นคนเก่ง มีวิธีการหลายวิธี และขั้นตอนต่างๆ ทำจนสามารถลักทรัพย์เหยื่อไปได้ และคิดว่าในเมื่อคนร้ายใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กล่าเหยื่อได้ ก็ต้องใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กจับคนร้ายได้”น.ส.รตินันท์กล่าว

 ด้านนายโอมกล่าวว่า คดีลักทรัพย์ตนยอมรับทุกคดี ส่วนคดีข่มขืนนั้นยืนยันว่าไม่เคยทำ สามารถตรวจสอบจากภาพวงจรปิดจากสถานที่เกิดเหตุได้ เพราะถ้าข่มขืนจริง ผู้หญิงคงไม่เดินจับมือตนออกมาด้วยกัน เหยื่อที่มีเพศสัมพันธ์ด้วยมีประมาณ 10-15 คน อุบายที่ใช้ลักทรัพย์ก็คิดเอง ไม่ได้เลียนแบบภาพยนตร์หรือคนอื่น โดยหาเหยื่อจากอินเตอร์เน็ตโดยการโพสต์ข้อความคุยกัน จากนั้นก็นัดเจอแล้วลงมือลักทรัพย์ ส่วนสาเหตุเพราะต้องการนำเงินที่ได้ไปให้ครอบครัว เพราะครอบครัวเคยแตกแยก เลิกกับภรรยาซึ่งมีลูกด้วยกัน จากนั้นมาคบหากับผู้หญิงคนหนึ่งทุกอย่างก็กลับมาเป็นครอบครัวเหมือนเดิม จึงหาเงินส่งให้เดือนละ 15,000 บาท 

 พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า ผู้เสียหายที่ยังไม่ได้มาแจ้งความ ขอให้มาดูของกลางได้ที่สน.บางนา นอกจากนี้นายโอม ยังใช้ซิมโทรศัพท์ประมาณ 80 เบอร์ในการกระทำความผิด จากการตรวจสอบเบื้องต้นมีผู้เสียหายมากกว่า 100 ราย นายชาครรับสารภาพว่า ได้ทำลายเอกสารไปแล้วบางส่วนด้วย และเริ่มก่อเหตุมาตั้งแต่ปี 2551 ในพื้นที่กทม. และปริมณฑล จากการตรวจสอบประวัตินายชาคร เคยก่อคดีลักทรัพย์ในพื้นที่ สน.บางนา สน.บุคคโล สน.บางยี่ขัน สน.บางนา สภ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ สภ.บางกรวย จ.นนทบุรี และสภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ คดีความผิดเกี่ยวกับรับราชการทหาร สภ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี คดียักยอกทรัพย์ สภ.เมืองสุรินทร์ และคดีข่มขืน สน.บางยี่ขัน

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแถลงข่าว มีผู้เสียหาย 10 กว่ารายต่างมาชี้ตัวยืนยัน หลังจากแถลงข่าวเสร็จ มีผู้เสียหายหญิงรายหนึ่งเดินปรี่เข้าไปจะตบนายโอม ด้วยความแค้นที่เคยโดนหลอกเอาทรัพย์สินไป แต่ตำรวจได้ห้ามปรามเอาไว้ก่อนพาตัวออกไประงับอารมณ์

คลิปเจ้าทุกข์เผยเล่ห์เหลี่ยมนายโอม

[kaentong]

ไม่รู้ว่าจะลงโทษยังงัยดี