(http://upic.me/i/vs/w1qn4.jpg) (http://upic.me/show/46265131)
(http://upic.me/i/9h/5avp8.jpg) (http://upic.me/show/44004378)
ประวัติ
องค์หลวงปู่ฮ้อ ฐิติโก
วัดป่าสวนมอน ตำบลท่าพระ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น
ทายาทธรรมศิษย์ในองค์หลวงปู่คำดี ปภาโส
#ประวัติและปฏิปทา
องค์หลวงปู่ฮ้อ ฐิติโก
วัดป่าสวนมอน ตำบลท่าพระ ำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น
#ชาติภูมิ
องค์หลวงปู่ฮ้อ ฐิติโก ท่านถือกำเนิดในวันพุธที่ ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๖๘ ตรงกับวันแรม ๑๓ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีขาล ที่ ต.บางตาล อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี นามเดิมชื่อ อาฮ้อ แซ่โง้ว (หรือ แซ่อู๋ ในภาษาจีนกลาง) บิดาชื่อ นายยิ๊ด แซ่โง้ว มารดาชื่อ นางกกเงี้ยว เเซ่ก๊วย อพยพมาจากประเทศจีนในครั้งสงครามโลกครั้งที่ ๒ ทางเรือสำเภา ขึ้นฝั่งประเทศไทยที่จังหวัดราชบุรี ท่านมีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน ๕ คนเป็นชาย ๒ คนเป็นหญิง ๓ คน และท่านเป็นบุตรคนที่ ๓
#ปฐมวัย
การทำมาหากินในสมัยนั้นยากลำบากเพราะยังอยู่ในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ ๒ โดยโยมพ่อโยมแม่ของท่านยึดอาชีพปลูกผักเเละเลี้ยงเป็ดขาย ตัวท่านก็ต้องช่วยครอบครัวในการทำงานตั้งแต่ยังตัวเล็กๆด้วยความที่เป็นคนต่างด้าว การเข้าโรงเรียนและสิทธิต่างๆในการติดต่อราชการก็ไม่มีความสะดวก โยมพ่อของท่านจึงได้ตัดสินใจส่งท่านกลับเมืองจีนตอนอายุ ๙-๑๐ ขวบ เพื่อที่จะได้เข้าโรงเรียนเเละเรียนหนังสือที่เมืองจีน โดยอาศัยอยู่กับญาติที่บ้านเดิมของโยมพ่อโยมแม่ของท่าน คือหมู่บ้านในตำบลเก๊กเอี้ยว(หรือเกียดหยองในภาษาจีนกลาง) จังหวัดซัวเถา มณฑลกวางตุ้ง องค์หลวงปู่ท่านได้ใช้ชีวิตอยู่เมืองจีนด้วยความยากลำบากจนถึงช่วงวัยหนุ่มอายุประมาณ ๒๑ ปี ได้เกิดสงครามมหาเอเชียบูรพา ทำให้องค์หลวงปู่เเละญาติพี่น้องได้ชักชวนกันหนีภัยสงครามกลับเมืองไทย โดยมาลงเรือที่ท่าเรือซัวเถา ใช้เวลาถึง ๘ วัน ๘ คืนกว่าจะถึงประเทศไทย มาขึ้นฝั่งที่จังหวัดราชบุรี และก็ได้ออกตามหาโยมพ่อโยมแม่และพี่ๆน้องๆของท่าน โดยระยะแรกหลวงปู่ได้ยึดอาชีพเป็นช่างปูนอยู่แถวๆคลองเตยและระยะนี้เองที่ท่านได้แต่งงานมีครอบครัวกับแม่บ้านของท่านซึ่งได้เดินทางมาจากเมืองจีนด้วยกัน ช่วงนี้ท่านได้ติดต่อสื่อสารกับเพื่อนชาวจีน ทำให้มีโอกาสได้ยินได้ฟังเกี่ยวกับเรื่องครูบาอาจารย์พระเถระชื่อดังๆในสมัยนั้นซึ่งเป็นเรื่องที่ท่านสนใจอยู่เป็นทุนเดิม ครั้นต่อมาเมื่อประมาณปี พ.ศ ๒๔๙๗ เพื่อนชาวจีนได้ชักชวนท่านย้ายไปทำมาหากินที่จังหวัดเลย และเมื่อฐานะความเป็นอยู่มีความมั่นคงขึ้นหลวงปู่ก็เริ่มหาลู่ทางที่จะออกปฏิบัติอย่างจริงจังตามความตั้งใจเดิมของท่าน ซึ่งในระยะนั้นหลวงปู่คำดี ปภาโส ได้มาจำพรรษาอยู่ที่วัดถ้ำผาปู่จังหวัดเลย พอหลวงปู่ได้ทราบข่าวท่านจึงชวนเพื่อนเข้าไปกราบและฝากตัวเป็นศิษย์(ฆราวาส) กับหลวงปู่คำดี ปภาโส ที่วัดถ้ำผาปู่และได้เดินทางไปทำบุญปฏิบัติภาวนากับหลวงปู่คำดีเป็นประจำมิได้ขาด
#อุปสมบท
จนกระทั่งราวๆปี พ.ศ. ๒๕๑๔ ท่านได้ตัดสินใจบวชเพื่อจะได้ปฏิบัติอย่างเต็มที่ ที่วัดศรีสุทธาวาส (วัดเลยหลง) กับองค์หลวงปู่ศรีจันทร์ วัณณาโภ เป็นพระอุปัชฌาย์เสร็จแล้วท่านก็ได้มาอยู่และจำพรรษาที่วัดถ้ำผาปู่โดยมีองค์หลวงปู่คำดี ปภาโส เป็นประธานสงฆ์และครูบาอาจารย์คอยชี้แนะแนวทางการปฏิบัติ จนจิตของท่านสงบละเอียดสามารถเข้าใจในสภาวะธรรมที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน ท่านปฏิบัติอยู่อย่างนั้นตลอดพรรษาจนกระทั่งออกพรรษารับกฐินเสร็จ ทางบ้านท่านก็ส่งข่าวมาบอกว่าแม่บ้านของท่านมีเหตุจำเป็นต้องเดินทางกลับเมืองจีน เเละลูกๆของท่านก็ยังเล็กอยู่ไม่มีคนดูแล ท่านก็เลยมาพิจารณาว่าถ้ายังบวชอยู่ต่อไปไม่จัดการเรื่องราวให้เรียบร้อยก่อนคงจะไม่เป็นผลดี ท่านจึงตัดสินใจลาสิกขาเพื่อออกไปดูแลและจัดการปัญหาครอบครัวให้เรียบร้อย และก็ได้สึกออกไปในปี พ.ศ ๒๕๑๗ - ๒๕๑๘ ตลอดเวลาที่ท่านสึกออกไปทางโลก ท่านก็ไม่ได้ละทิ้งการปฏิบัติ ขณะเดียวกันท่านก็ได้ทำหน้าที่หัวหน้าครอบครัวที่ดีคือจัดการปัญหาต่างๆจนเป็นที่เรียบร้อยทุกอย่างลงตัว (ใช้เวลา ๑ ปี)
#อุปสมบทครั้งที่_๒
เเละท่านได้อุปสมบทครั้งที่สองที่วัดศรีสุทธาวาส (วัดเลยหลง) เมื่อวันที่ ๒๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๑๙ ซึ่งขณะนั้นท่านอายุได้ ๕๑ ปี โดยมีพระเทพวราลังการ องค์หลวงปู่ศรีจันทร์ วัณณาโภ เป็นพระอุปัชฌาย์
พระครูญาณธราภิรัต องค์หลวงปู่ท่อน ญาณธโร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูอดิสัยคุณาธาร องค์หลวงปู่สีทน สีลธโณ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลังจากบวชแล้วท่านก็ได้เข้ามาอยู่จำพรรษาที่วัดถ้ำผาปู่กับองค์หลวงปู่คำดี ปภาโส ซึ่งตอนนั้นมีครูบาอาจารย์อยู่ด้วยกันหลายรูปเช่นองค์หลวงปู่สีทน สีลธโน องค์หลวงปู่เผย วิริโย ส่วนองค์หลวงปู่ท่อน แยกไปอยู่วัดศรีอภัยวัน
#การจำพรรษา
พรรษาที่ ๑ ( ๒๕๑๙ ) วัดถ้ำผาปู่ จังหวัดเลย
พรรษาที่ ๒ -๑๔ (๒๕๒๐ - ๒๕๓๒) วัดป่าเนรมิต จังหวัดอุดรธานี
พรรษาที่ ๑๕-๒๑ ( ๒๕๓๓-๒๕๓๙) วัดถ้ำผาปู่ จังหวัดเลย
พรรษาที่ ๒๒ (๒๕๔๐) ที่พักสงฆ์แม่กลอง จังหวัดสมุทรสงคราม
พรรษาที่ ๒๓-๒๙ (๒๕๔๑-๒๕๔๗) วัดป่าสวนมอน จังหวัดขอนแก่น
พรรษาที่ ๓๐-๓๖ (๒๕๔๘-๒๕๕๔) วัดทุ่งเศรษฐี จังหวัดขอนแก่น
พรรษาที่ ๓๗ (๒๕๕๕-๒๕๕๖) วัดป่าสวนมอน จังหวัดขอนแก่น
ปีพ.ศ ๒๕๕๔ องค์หลวงปู่อยู่ที่วัดทุ่งเศรษฐี เเละระยะหลังสุขภาพของท่านไม่ค่อยดีต้องเข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลด้วยโรคหัวใจ ท่านจึงรับนิมนต์และได้กลับมาอยู่ที่วัดป่าสวนมอน
#กาลอาพาธและละสังขาร
หลังกลับมาอยู่ที่วัดป่าสวนมอนสุขภาพของ องค์หลวงปู่ก็ยังไม่ค่อยดีนัก ต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลหลายต่อหลายครั้ง จนกระทั่งครั้งหลังสุดเมื่อวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ องค์หลวงปู่มีอาการปอดติดเชื้อรุนแรง ญาติโยมได้นิมนต์ท่านไปรักษาตัวที่ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จังหวัดขอนแก่น คณะแพทย์ได้ทำการรักษาอย่างเต็มที่ เเต่เนื่องจากการติดเชื้อลามเข้าไปที่กระแสเลือด ทำให้อาการขององค์หลวงปู่ทรุดลงอย่างรวดเร็ว แพทย์ได้พยายามทำทุกอย่างเพื่อที่จะรักษาธาตุขันธ์ขององค์หลวงปู่ แต่อาการก็ไม่ดีขึ้น เเละวันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๕๖ หลวงปู่มีความประสงค์ที่จะกลับที่วัดป่าสวนมอน ทางโรงพยาบาลศรีนครินทร์ก็ได้อำนวยความสะดวกให้ทุกอย่าง ได้ส่งบุรุษพยาบาลตามมาคอยดูแลองค์หลวงปู่ที่วัด จนกระทั่งเช้าวันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๕๖ องค์หลวงปู่มีอาการไข้และความดันตก หมอและพยาบาลที่ดูแลหลวงปู่ได้ให้ยาลดไข้และยาเพิ่มความดันแต่อาการองค์หลวงปู่ไม่ดีขึ้น จนถึงเวลา ๑๐.๒๐ น. ของวันที่ ๒๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ องค์หลวงปู่ก็ได้ละสังขารจากไปด้วยอาการสงบ
รวมสิริอายุได้ ๘๗ ปี ๕ เดือนกับ ๑๕ วัน ๓๗ พรรษา ( ๒๕๕๖ )